วิชาฐานข้อมูลเบื้องต้น
การบ้านบทที่ 3 ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553
1.การแบ่งสถาปัตยกรรมของฐานข้อมูลออกเป็น 3 ระดับ มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ใดเป็นสำคัญ
ตอบ วัตถุประสงค์ของการแบ่งสถาปัตยกรรมของฐานข้อมูลออกเป็น 3 ระดับ เพื่อให้เกิดความเป็นอิสระของข้อมูล (Data Independence) คือในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระดับที่สูงกว่า จะไม่มีผลกระทบกับข้อมูลในระดับที่ต่ำกว่า
2.ความเป็นอิสระของข้อมูลมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อการจัดการฐานข้อมูล จงอธิบาย
ตอบ ความเป็นอิสระของข้อมูลคือการที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระดับแนวความคิด หรือระดับภายในได้โดยไม่กระทบกับโปรแกรมที่ เรียกใช้ ผู้ใช้ยังมองเห็นโครงสร้างข้อมูลในระดับ ภายนอกเหมือนเดิมและใช้งานได้ตามปกติ โดยมี DBMS เป็นตัวจัดการในการเชื่อมต่อข้อมูล ในระดับ ภายนอกกับระดับแนวความคิด และเชื่อมข้อมูลระดับแนวความคิดกับระดับภายใน นั่นหมายถึงการ เปลี่ยนแปลงข้อมูลในระดับที่ต่ำ กว่า จะไม่กระทบกับข้อมูลที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า ซึ่งความเป็นอิสระ ของข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ
- ความเป็นอิสระของข้อมูลเชิงตรรกะ (Logical Data Independce) คือ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างของข้อมูลในระดับแนวความคิด จะไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างข้อมูลในระดับภายนอกที่ผู้ใช้งานใช้อยู่ เช่น ในการเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงข้อมูลของพนักงาน ซึ่งใช้ข้อมูลใน ระดับภายนอก หากในระดับแนวความคิด มีการเปลี่ยนแปลง โดยการ เพิ่มแอตทริบิวส์บางตัวเข้าไปใน รายละเอียดข้อมูลของพนักงาน จะไม่มี ผลกระทบกับโปรแกรมเดิมที่ทำงานอยู่
- ความเป็นอิสระของข้อมูลเชิงกายภาพ (Physical Data Independce) คือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างของข้อมูลในระดับภายใน จะ ไม่มีผลกระทบต่อ โครงสร้างข้อมูลในระดับแนวความคิด หรือระดับภายนอก เช่น ในระดับภายในมีการเปลี่ยนวิธีการ จัดเก็บข้อมูลจากแบบ เรียงลำดับ (sequential) ไปเป็นแบบดัชนี (indexed) ในระดับภายใน ในระดับแนวคิดนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หรือ โปรแกรมประยุกต์ที่เขียน ในระดับ ภายนอกก็ไม่จำเป็นต้องแก้ไขโปรแกรมตามวิธีการจัดเก็บที่เปลี่ยนแปลงไป
3.ปัญหาที่สำคัญของ Hierarchical Model คืออะไรและเหตุใด Hierarchical Model จึงไม่สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ทั้งหมด
ตอบ Record ที่อยู่ด้านบนของโครงสร้างหรือพ่อ (Parent Record) นั้นสามารถมีลูกได้มากกว่าหนึ่งคนแต่ลูก (Child Record) จะไม่สามารถมีพ่อได้มากกว่า 1 คนได้
4.เหตุใด Network Model ซึ่งสามารถแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของซ้ำซ้อนของข้อมูลได้จึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้งาน
ตอบ สามารถมีต้นกำเนิดของข้อมูลได้มากกว่า 1 และยินยอมให้ระดับชั้รที่อยู่เหนือกว่าจะมีได้หลายแฟ้มข้อมูลถึงแม้ว่าระดับชั้นถัดลงมาจะมีเพียงแฟ้มข้อมูลเดียว
5. สิ่งที่ทำให้ Relational Model ได้รับความนิยมอย่างมากคืออะไร จงอธิบาย
ตอบ -การพัฒนาระบบฐานข้อมูลด้วย Relation Model สามารถพัฒนาระบบได้อย่างรวดเร็วกว่าสะดวกกว่าทำให้ได้ผลงานที่สูงกว่า Hierarchical Model และ Network Model
ตอบ -การพัฒนาระบบฐานข้อมูลด้วย Relation Model สามารถพัฒนาระบบได้อย่างรวดเร็วกว่าสะดวกกว่าทำให้ได้ผลงานที่สูงกว่า Hierarchical Model และ Network Model
-ภาษาที่ใช้เหมาะสมและสามารถ retrieve ข้อมูลด้วยคำคำสั่งเดียว
-โครงสร้างข้อมูลเรียบง่ายต่อการ Update,Delete,Insert
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น