วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิชาฐานข้อมูลเบื้องต้น การบ้านบทที่ 1 ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553

วิชาฐานข้อมูลเบื้องต้น การบ้านที่ 1 ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553
1. จงสรุปแนวคิดการจัดการข้อมูลจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ตอบ การจัดการแฟ้มข้อมูล (File Management) ในอดีตแฟ้มข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในรูปแบบของแฟ้มข้อมูลอิสระ(Convemtional File) ซึ่งระบบงานแต่ละระบบก็จะสร้างแฟ้มของตนเองขึ้นมาโดยที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน เช่น ระบบบัญชีที่สร้างแฟ้มข้อมูลของตนเอง ระบบพัสดุคงคลัง (Inventory) ระบบการจ่ายเงินเดือน (Payroll) ระบบออกบิล (Billing) และระบบอื่นก็มีแฟ้มข้อมูลเป็นของตัวเอง หากมีการปรับปรุงแก้ไขเฉพาะส่วนจึงทำให้ข้อมูลบางครั้งเกิดควมสับสนเนื่องจากข้อมูลมีความขัดแย้งกันในบางองค์การอาจมีการเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษาที่เขียนต่างกัน เช่น ภาษาโคบอล (Cobol Language)  ภาษาปาสคาล (Pascal) หรือภาษาซี (C Language) ซึ่งมีลักษณะของข้อมูลที่สร้างด้วยภาษาที่ต่างกันและไม่สามารถใช้ร่วมกันได้จึงทำให้องค์การเกิดความสูญเสียในข้อมูล
2.โครงสร้างของแฟ้มข้อมูลประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ โครงสร้างแฟ้มข้อมูล (Data Structure) หมายถึง การจัดระเบียบของแฟ้มข้อมูล ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ลำดับจากหน่วยที่เล็กที่สุดไปยังหน่วยที่ใหญ่ที่สุดตามลำดับ
  • บิต (Bit: Binary Digit) คือหน่วยของข้อมูลที่เล็กที่สุดที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ซึ่ง Bit จะแทนด้วยตัวเลขหนึ่งตัว คือ 0 และ 1 เพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกตัวเลข 0 และ 1 ว่าเป็นบิท 1 บิท
  • ไบท์ (Byte) คือหน่วยของข้อมูลที่นำบิทหลายๆบิทมารวมกัน แทนตัวอักษรแต่ละตัว เช่น A,B.... 1,2..... และสัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ เช่น $,&,+,-,*,/ ฯลฯ โดยตัวอัการหนึ่งตัวจะแทนด้วยบิท 7 บิท หรือ 8 บิท ซึ่งตัวอักษรแต่ละตัวจะเรียกว่าไบท์
  • เขตข้อมูล (Field) คือหน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำตัวอักษรหลายๆตัสมารวมกันให้เกิดความหมาย เช่น รหัสนักศึกษา,ชื่อ,นามสกุล,โปรแกรมวิชา,คณะ
  • ระเบียน (Record) คือหน่วยของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันมารวมกันหรือค่าของข้อมูลเช่นระเบียนนักศึกษาคนที่ 1 ประกอบด้วยเขตข้อมูล รหัสนักศึกษา,ชื่อ,นามสกุล,โปรแกรมวิชา,คณะ
  • แฟ้มข้อมูล (File) คือหน่วยของข้อมูลที่มีการนำระเบียนหลายๆระเบียนที่ม่ีความสัมพันธืกันมารวมกัน เช่น แฟ้มขอ้มูลนักศึกษา
  • ฐานข้อมูล (Database) คือหน่วยของข้อมูลที่มีการนำแฟ้มขอ้มูลหลายๆแฟ้มที่มีความสัมพันธ์กันมารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในระบบทะเบียนของนักศึกษา ประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลรายวิชา นักศึกษา การลงทะเบียน ผลการเรียนและอาจารย์ผู้สอน เป็นต้น
3.การเก็บแฟ้มข้อมูลมีข้อจำกัดอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ ในการจัดการแฟ้มข้อมูลที่เป็นอิสระและกระจัดกระจายนั้น พบว่าแต่ละแผนกและแต่ละงานมีแฟ้มข้อมูลเป็นของตัวเองแยกเก็บในแต่ละแผนก เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าอาจมีความคล่องตัวสูงแต่ในขณะเดียวกันอาจก่อให้เกิดปัญหา ดังนี้
  • เกิดความซ้ำซ้อนของข้อมูล (Data Reduddancy) เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีแฟ้มข้อมูลของตัวเอง คือข้อมูลชุดเดียวกันมีการจัดเก็บในแฟ้มข้อมูลที่ต่างกันหรือข้อมูลชุดเดียวกันถูกจัดเก็บในสองแฟ้มข้อมูลหรือมากกว่าซึึ่งจะทำให้เป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่
  • ลำบากต่อการแก้ไข (Updating Difficulties) ทำซ้ำซ้อนของข้อมูลจะทำให้ยากต่อการแก้ไขข้อมูลเนื่องจากถ้ามีข้อมูลใดเปลี่ยนแปลงจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงแฟ้มข้อมูลทุกแฟ้มข้อมูลที่มีการซ้ำทั้งหมด อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ และอาจจะเกิดความสับสนหากข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูลไม่ตรงกันรวมทั้งยังไม่ตรงกัน รวมทั้งสิ้นเปลือยแรงงานในการเปลี่ยนแปลง
  • เกิดความขัดแย้งของข้อมูล (Data Inconsistency) เป็นปัญหาที่เกิดจากการจัดเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อนเนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลชุดเดียวกันในหลายแฟ้มข้อมูล อาจทำให้ข้อมูลชุดเดียวกันอาจเกิดความแตกต่างกันได้ แต่ละแฟ้มข้อมูลถ้าเรามีการปรับปรุงข้อมูลไม่ครบถ้วนซึ่งทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลชุดใดเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง
  • เกิดการผูกติดกับข้อมูล (Data Dependance) เมื่อโปรแกรมได้ถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับแฟ้มข้อมูลโดยเฉพาะจะทำให้เกิดการผูกติกติดกันกับรูปแบบของข้อมูล
  • การกระจัดกระจายของข้อมูล (Data Dispersion) ถ้าข้อมูลถูกจัดเก็บในแหล่งต่างๆอย่างไม่เป็นระบบโดยมีโครงสร้างและรูปแบบของข้อมูลผูกติดกับโปรแกรมที่ใช้งานข้อมูลนั้นจะทำให้เกิดความยากในการใช้ข้อมูลร่วมกันกับโปรแกรมอื่น เนื่องจากต้องมีการพัฒนาโปรแกรมใหม่เพื่อที่จะสามารถใช้กับข้อมูลที่แตกต่างกันได้
  • การใช้ประโยชน์จากข้อมูลลดลง (Undirutilization Of  Data) เนื่องจากต้องมีการพัฒนาโปรแกรมโดยเฉพาะสำหรับการใช้ข้อมูลเพื่องานนั้นๆโดยไม่สามารถใช้โปรมแกรมเดิมที่ใช้งานอยู่ได้ ทำให้เข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ยาก
4.ฐานข้อมูลคืออะไรและยกตัวอย่างฐานข้อมูลที่นักศึกษารู้จักมาสองระบบ
ตอบ ฐานข้อมูล (Database) คือกลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธืเกี่ยวข้องกัน เช่น ชื่อ,นามสกุล,เบอร์โทรศัพท์ และกลุ่มข้อมูลดังกล่าวจะถูกจัดเก็บรวมกัน ซึ่งอาจจะเก็บอยู่ในแฟ้มเอกสารหรืออยู่ในคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างฐานข้อมูลที่สามารถพบได้ในชีวิตประจำวัน
  • การลงทะเบียนเรียน
  • ข้อมูลผู้ป่วยในโรงพยาบาล
5.ฐานข้อมูลช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูลอย่างไร
ตอบ ฐานข้อมูลจะช่วยสร้างระบบการจัดเก็บข้อมูลขององค์กรให้เป็นระเบียบ แยกข้อมูลตามประเภททำให้ข้อมูลประเภทเดียวกันจัดอยู่ในที่เดียวกันสามารถค้นหาและเรียกใช้งานได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นการนำมาพิมพ์เป็นรายงานหรือจะนำมาเพื่อคำนวณ ซึ่ีงจะขึ้นอยู่กับการนำมาใช้ประโยชน์ของแต่ละองค์กร
6.ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไรมีส่วนสำคัญกับฐานข้อมูลอย่างไร
ตอบ ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) หรือเรียกว่าดีบีเอ็มเอส (DBMS) เป็นกลุ่มโปรแกรที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในระบบระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูลซึ่งต่างจากระบบฐานข้อมูลที่ทำหน้าที่เหล่านี้จะเป็นหน้าที่ของโปรแกรมเมอร์ในการติดต่อข้อมูลกับฐานข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการใช้คำสั่งในกลุ่มดีเอ็มแอล (DML) หรือดีดีเเอล (DDL) หรือจะด้วยโปรแกรมต่างทุกคำสั่งที่ใช้กระทำกับข้อมูลจะถูกดีบีเอ็มเอสนำมาแปล (คอมไพล์) เป็นการปฏิบัติการ (Operration) ต่างๆภายใต้คำสั่งนั้นๆเพื่อนำไปกระทำตัวข้อมูลภายในฐานข้อมูลต่อไป สำหรับส่วนการทำงานภายในดีบีเอ็มเอสที่ทำหน้าที่การแปลคำสั่งเป็นการปฏิบัติการต่างๆข้อมูลนั้นประกอบด้วยส่วนการปฏิบัติการดังนี้

ตัวจัดการฐานข้อมูล (Databaes Manager) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดการกระทำต่างๆให้กับ File Manager เพื่อไปกระทำกับข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูล

ตัวประมวลผลข้อคำถาม (Query Processor) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ตัวแปลงกำหนดคำสั่งของภาษาสอบถาม (Qurry Language) ให้อยู่ในรูปแบบของคำสั่งที่ตัวจัดการฐานข้อมูลเข้าใจ

ตัวแปลภาษาจัดดำเนินการล่วงหน้า (Data Manipulayion Language precompiler) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่แปลประโยคคำสั่งของกลุ่มคำสั่งในดีเอ็มแอล ให้อยู่ในรูปแบบที่ส่วนรหัสเชิงวัตถุของโปรแกรมแอปพลิเคชันใช้นำเข้าเพื่อส่งต่อไปยังส่วนตัวจัดการฐานข้อมูลในการแปลประโยคคำสั่งของกลุ่มคำสั่งดัเอ็มแอลของส่วนตัวแปลภาษาจัดดำเนินการข้อมูลล่วงหน้าจะต้องทำงานร่วมกับส่วนตัวประมวลผลข้อคำถาม
ตัวแปลภาษานอยามข้อมูลล่วงหน้า (Datatdifinition Language precompiler)  เป็นส่วนที่ทำหน้าที่แปลประโยคคำสั่งของกลุ่มคำสั่งในภาษานิยามข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบของเมทาดาตา (Matadata) ที่เก็บอยู่ในส่วนพจนานุกรมข้อมูล (Data Ditionary) ของฐานข้อมูล
(เมทาดาคือรายละเอียดที่บอกถึงโครงสร้างต่างๆของข้อมูล)

รหัสจุดหมายของโปรแกรมแอพลิเคชัน (Application Program Object Code) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่แปลคำสั่งต่าวๆของโปรแกรม รวมทั้งคำสั่งของกลุ่มคำสั่งภาษาจัดดำเนินการข้อมูล หรือดีเอ็มแอลที่ส่งต่อมาจากส่วนตัวแปลภาษาจัดดำเนินการข้อมูลล่วงหน้าให้อยู่ในรูปแบบของรหัสจุดหมาย (Objec Code)ที่จะส่งต่อให้ตัวจัดการฐานข้อมูลเพื่อกระทำกับข้อมูลในฐานข้อมูล

มีส่วนสำคัญกับฐานข้อมูล คือ
  • ทำหน้าที่แปลงคำสั่งที่ใช้จัดการกับข้อมูลในฐานข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบที่ฐานข้อมูลเข้าใจได้
  • ทำหน้าที่นำคำสั่งที่ได้รับการแปลแล้วไปสั่งให้ฐานข้อมูลทำงาน เช่น การเรียกใช้ข้อมูล (Retrieve) การจัดเก็บข้อมูล (Update) การลบข้อมูล (Delete) การเพิ่มข้อมูล (Add) เป็นต้น
  • ทำหน้าที่รักษาควมสัมพันธืของข้อมูลในฐานข้อมูลให้มีความถูกต้อง
  • ทำหน้าที่เก็บรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องในฐานข้อมูลไว้ใน Data Dictionary รายละเอียดเหล่านี้เรียกว่าคำอธิบายข้อมูล Matadata
  • ทำหน้าที่ควบคุมให้ฐานข้อมูลทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
  • ทำหน้าที่ประสานงานกับระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ต่างๆให้สามารถเรียกใช้แก้ไขข้อมูลหรือออกรายงานกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
7.จงยกตัวอย่างฐานข้อมูลกับการดำเนินชีวิต
ตอบ
  • โปรแกรมจองตั๋วเครื่องบิน
  • โปรแกรมบริหารบัญชีธนาคาร
  • โปรแกรมบริหารข้อมูลผู้ป่วยตามโรงพยาบาล
  • โปรแกรมทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
  • โปรแกรมบริหารข้อมูลในโกดังเก็บของ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น